เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2568 ที่ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายรัคมัต บูดีมัน (H.E. Mr. Rachmat Budiman) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในโอกาสอำลาตำแหน่ง ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยสาระสำคัญของการหารือ

นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับและแสดงความยินดีที่ได้พบเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียฯ อีกครั้ง พร้อมชื่นชมความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างไทยกับอินโดนีเซียที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน โดยในปีนี้เป็นปีครบรอบ 75 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ ทั้งสองฝ่ายมีการแลกเปลี่ยนการเยือนในทุกระดับอย่างสม่ำเสมอ
โดยนายกรัฐมนตรีได้มีโอกาสพบกับนายปราโบโว ซูบียันโต ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ในโอกาสเยือนไทยอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา รวมถึงในห้วงการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้องเมื่อเดือนตุลาคม ซึ่งผู้นำทั้งสองประเทศได้หารือเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง

ด้านเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียฯ กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่สละเวลาให้เข้าเยี่ยมคารวะในครั้งนี้ พร้อมแสดงความยินดีต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอินโดนีเซียที่เป็นไปอย่างราบรื่นตลอดระยะเวลา 75 ปีที่ผ่านมา ในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตอินโดนีเซียฯ ยังได้ชื่นชมการดำเนินงานของไทยในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ และขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้ความช่วยเหลือในการส่งกลับชาวอินโดนีเซียซึ่งตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมข้ามชาติในพื้นที่เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา กลับประเทศอย่างปลอดภัย
โอกาสเดียวกัน ทั้งสองฝ่ายได้หารือเพื่อติดตามความคืบหน้าในประเด็นความร่วมมือสำคัญ โดยในด้านความมั่นคง นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณอินโดนีเซียที่เข้าร่วมการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยหุ้นส่วนระดับโลกเพื่อต่อต้านอาชญากรรมหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งไทยเป็นผู้ริเริ่มและเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น
พร้อมย้ำว่ารัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการปราบปรามศูนย์หลอกลวงทางออนไลน์ หรือศูนย์สแกมเมอร์ รวมถึงการให้ความช่วยเหลือเหยื่อจากขบวนการดังกล่าว ซึ่งล่าสุดได้ให้ความช่วยเหลือชาวอินเดียที่ตกเป็นเหยื่อในเมียนมาให้สามารถเดินทางกลับประเทศได้อย่างปลอดภัย ทั้งสองฝ่ายยืนยันที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันในด้านนี้อย่างใกล้ชิด
ในด้านความร่วมมือเพื่อป้องกันและปราบปรามการลักลอบค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย นายกรัฐมนตรีระบุว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของไทยมีความพร้อมที่จะส่งลิงอุรังอุตัง จำนวน 4 ตัว ซึ่งตรวจยึดได้จากการลักลอบค้าสัตว์ป่า กลับคืนสู่สาธารณรัฐอินโดนีเซียภายในเดือนนี้ ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพและความร่วมมือด้านการอนุรักษ์ โดยทั้งสองฝ่ายยืนยันความมุ่งมั่นในการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดต่อไป

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา โดยนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า ไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงในปฏิญญาร่วม (Joint Declaration) มาโดยตลอด ขณะที่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เป็นฝ่ายกัมพูชาที่ละเมิดข้อตกลงก่อน ส่งผลให้กำลังพลของฝ่ายไทยได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต รวมถึงทำให้ประชาชนจำนวนมากต้องอพยพออกจากพื้นที่ ด้านเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียฯ แสดงความห่วงกังวลต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้น และหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถหาทางออกร่วมกันได้ในที่สุด